ยูเครนเดินหน้าเจรจาสันติภาพรอบใหม่ หวังยุติสงครามก่อนสิ้นปี
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลยูเครนประกาศความคืบหน้าในการเปิดการเจรจาสันติภาพรอบใหม่กับรัสเซีย โดยมีประเทศกลางจำนวน 4 ประเทศ รวมถึงตุรกีและสวิตเซอร์แลนด์ เข้าร่วมเป็นผู้ประสานงานความพยายามดังกล่าว ทั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนที่ทั้งสองฝ่ายแสดงท่าทีเปิดรับการเจรจาในระดับผู้นำ
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนระบุว่า รัฐบาลกำลังประเมินข้อเสนอที่รัสเซียเสนอผ่านช่องทางทูตลับ และย้ำว่าเงื่อนไขหลักของยูเครนคือการเคารพอธิปไตยเหนือดินแดนเดิมทั้งหมด รวมถึงไครเมีย ซึ่งถูกผนวกไปตั้งแต่ปี 2557

รัสเซียยังไม่ให้ถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าว แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดในกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเผยว่า เครมลินต้องการเจรจาบนพื้นฐานของการปักหลักในดินแดนที่กองทัพควบคุมอยู่ในปัจจุบัน พร้อมเงื่อนไขการถอนมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ
สถานการณ์ในแนวหน้าทางตะวันออกของยูเครนยังคงตึงเครียด มีการสู้รบประปรายในเมืองโดเนตสค์และลูฮันสก์ แม้ไม่มีการรุกใหญ่จากทั้งสองฝ่าย สหรัฐฯ และ NATO ยังคงส่งความช่วยเหลือทางทหารและมนุษยธรรมต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มอีก 3 หน่วยในพื้นที่สำคัญ
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ปัจจัยที่เร่งให้เกิดการเจรจาในช่วงนี้คือผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ทั้งสองประเทศต้องเผชิญจากสงครามที่ยืดเยื้อ รวมถึงแรงกดดันจากพันธมิตรที่เริ่มมีเสียงเรียกร้องให้หาทางออกผ่านการทูตมากขึ้น
หากการเจรจาสันติภาพรอบใหม่นี้สามารถตกลงกันได้แม้เพียงในกรอบหยุดยิงชั่วคราว ก็จะเป็นก้าวสำคัญในการคลี่คลายความขัดแย้งที่คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วนับแสนราย และส่งผลต่อความมั่นคงในยุโรปตะวันออกมาอย่างต่อเนื่องเกือบสามปี
หากรอบเจรจาถัดไปมีความคืบหน้า เช่น ข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน และมีแนวทางด้านดินแดนความมั่นคง อาจเปิดทางสู่เวทีสนธิสัญญาสันติภาพก่อนสิ้นปี แต่หากเงื่อนไขต่างชาติแตกต่างกัน ปลายปี 2025 นี้อาจยังคงเป็นปีที่สงครามยังดำเนินต่อไป
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



